รวมครบบทสวดมนต์แผ่เมตตา
บทอุทิศบุญกุศล
บทขออโหสิกรรม
บทขอขมากรรม
บทสวดขอขมาเจ้าที่เทวดาอารักษ์
หลังสวดมนต์ต่างๆ เสร็จ เช่นทำวัตรเช้าเย็นเสร็จ หรือสวดบท 7 ตำนาน 12 ตำนานแล้ว ควรสวดแผ่เมตตา หรือสวดขอขมากรรม สวดอโหสิกรรม เพื่ออุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรและเกิดความสวัสดีแก่ตัวเราเอง
รวมบทแผ่เมตตาแก่ตนเอง แผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ รวมบทอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ทั้งบาลีและคำแปล คำอธิษฐานขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวร คำอธิษฐานขอขมากรรมต่อบิดามารดา ผู้มีพระคุณ และต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอขมาเจ้าที่ พระภูมิเจ้าที่ เทวดาอารักษ์
บทแผ่เมตตาให้ตนเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ,
ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข ;
นิททุกโข โหมิ,
ปราศจากความทุกข์ ;
อะเวโร โหมิ,
ปราศจากเวร ;
อัพ๎ยาปัชโฌ โหมิ,
ปราศจากอุปสรรคอันตราย และความเบียดเบียนทั้งปวง ;
อะนีโฆ โหมิ,
ปราศจากความทุกข์กาย ทุกข์ใจ ;
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ.
มีความสุขกาย สุขใจ รักษาตน
ให้รอดพ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด.
บทแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
สัพเพ สัตตา,
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์
เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ;
อะเวรา โหนตุ,
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
อย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลย ;
อัพ๎ยาปัชฌา โหนตุ,
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ;
อะนีฆา โหนตุ,
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย ;
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ.
จงมีความสุขกายสุขใจ
รักษาตนให้รอดพ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด.
บทอุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศล
อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ,
สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร,
ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า
ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้ามีความสุข ;
อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ,
สุขิตา โหนตุ ญาตะโย,
ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า
ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข ;
อิทัง เม คะรูปัชฌายาจะริยานัง โหตุ,
สุขิตา โหนตุ คะรูปัชฌา ยาจะริยา,
ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่ครู อุปัชฌาย์และอาจารย์ของข้าพเจ้า
ขอให้ครู อุปัชฌาย์และอาจารย์ของข้าพเจ้ามีความสุข ;
อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ,
สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา,
ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลาย
ขอให้เทวดาทั้งหลายมีความสุข ;
อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ,
สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา,
ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลาย
ขอให้เปรตทั้งหลายมีความสุข ;
อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ,
สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี,
ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายมีความสุข ;
อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ,
สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา,
ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลาย
ขอให้สัตว์ทั้งหลายมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ.
คำอธิษฐานขออโหสิกรรม
ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม
กรรมใดที่ข้าพเจ้าได้ทำแก่ผู้ใด ในชาตินี้และชาติใดๆ ก็ตาม
ขอให้เจ้ากรรมนายเวร จงอโหสิกรรมนั้นให้แก่ข้าพเจ้า
อย่าได้จองเวรจองกรรมต่อไปเลย
และกรรมอันใดที่ใครๆ ทำแก่ข้าพเจ้าก็ตาม
ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมนั้นทั้งหมด
ยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน
เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อไป
ด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทานนี้
ขอให้ข้าพเจ้าครอบครัว บุตรหลาน ตลอดจนวงศาคณาญาติ
และผู้มีอุปการคุณทุกท่าน จงมีความสุขความเจริญในทุกถิ่นสถาน
ดำรงตนมั่นอยู่ในคำสอนที่ดีงามของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
อย่าได้ตกไปสู่ทุคติอบายภูมิ
จนกว่าจะเข้าถึงพระนิพพานในอนาคตกาลเทอญ.
พิธีขอขมากรรมบิดามารดา
บิดามารดาถือเป็นบุคคลที่มีบุญคุณอันสูงสุดของลูกๆ และเป็นหน้าที่ของลูกทุกคนต้องตอบแทนพระคุณให้ถึงที่สุด แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ก็ทรงปฏิบัติไว้เป็นแบบอย่างด้วยการเสด็จไปจำพรรษา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อแสดงพระอภิธรรมโปรดพระมารดาตลอด ๓ เดือนโดยมิหยุดพัก ทั้งนี้ เพื่อยกย่องและทดแทนพระคุณของพระมารดา
ลูกคนใดที่ทำไม่ดีกับพ่อแม่แม้เพียงเล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นการกระทำทางกาย ทางวาจา หรือทางความคิดก็ตาม ถือว่าได้สร้างบาปมหันต์ ลูกที่ทำให้พ่อแม่น้ำตาตกเท่ากับทำให้พ่อแม่ตกนรก เป็นบาปหนักอย่างยิ่ง หากไม่ทำการขอขมาให้ท่านอโหสิกรรมแล้วไซร้ ชีวิตก็หาความเจริญมิได้เพราะมีบาปกรรมติดตัวมีชั่วติดตน
ดังนั้นลูกที่หวังความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตจึงควรกล่าวขอขมากรรม กับพ่อแม่ และหมั่นกตัญญูกตเวทีต่อท่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนเริ่มขอขมาให้จัดเตรียมของดังนี้
๑) ธูปเทียนแพ ๑ ชุด
๒) มาลัย ๑ พวง
๓) น้ำสำหรับล้างเท้า+ผ้าสำหรับเช็ดเท้า
๔) เงินใส่ซอง
ก่อนเริ่มการขอขมา ให้จุดธูปกลางแจ้ง ๕ ดอกแทนเทพในทิศทั้ง ๔ และทิศเบื้องบน หรือ ๑๖ ดอก แทนเทพชั้นครู ตั้งจิตกล่าวอธิษฐานว่า
“ข้าพเจ้า ขอน้อมบูชาแด่องค์สมเด็จ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมพระธรรมและพระสงฆ์ วันนี้ ข้าพเจ้า…………………………. มีความตั้งใจจะทำพิธี กราบขอขมาอโหสิกรรม ต่อบิดามารดา ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมทั้งพระธรรม และพระสงฆ์ ได้โปรดลบันดาลให้การขอขมากรรมในครั้งนี้ จงบรรลุผลสำเร็จ ตามที่ปรารถนาด้วยเถิด.
ข้าพเจ้า ขออัญเชิญเทพเทวดาทั้งหลาย ที่สถิต ณ สถานที่แห่งนี้ และที่สถิต ณ ทิพยสถานวิมานเลิศทั้งหลาย พระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระยายมราช พระภูมิเจ้าที่ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย วันนี้ เวลานี้ ข้าพเจ้าตั้งใจจะทำพิธี ขอขมาอโหสิกรรมแก่บิดามารดา. ขอท่านได้เป็นสักขีพยาน ในกรรมครั้งนี้ด้วยเถิด”
ลำดับจากนั้น ให้พ่อแม่นั่งบนเก้าอี้ ล้างเท้าของท่าน เช็ดด้วยผ้าสะอาด จากนั้นถือเทียนแพพร้อมมาลัย คุกเข่าต่อหน้าท่าน กล่าวขอขมา ดังนี้….
“กายะกัมมัง วะจีกัมมัง มะโนกัมมัง กรรมอันใด ที่ลูกได้เคยกระทำล่วงเกินต่อบิดามารดา ด้วยการกระทำทางกาย มี….(ระบุกรรมทางกายที่นึกได้ เช่น เคยแสดงกิริยาไม่พอใจ กระทืบเท้า ขว้างปาสิ่งของ เคยประชดประชัน ทุบตี ผลักไส) ก็ดี
ด้วยการกระทำทางวาจา มี…(ระบุกรรมทางวาจาที่ตนเคยทำไม่ดีกับพ่อแม่ที่นึกได้ เช่น เคยพูดจาดูหมิ่น ตัดพ้อต่อว่า ดุด่าว่าร้าย โกหกหลอกลวง นินทา โต้เถียงคำไม่ตกฟาก กล่าวใช้ให้ทำในสิ่งนั้นสิ่งนี้) ก็ดี
ด้วยการกระทำทางใจ ทางความคิด มี… (ระบุกรรมที่เคยคิดไม่ดีกับพ่อแม่ที่นึกได้ เช่น เคยคิดดูหมิ่น เคยนึกรำคาญ เคยนึกตำหนิติเตียน เคยนึกโกรธ นึกเกลียดชัง เคยคิดในแง่ไม่ดี คิดด่าว่า คิดโกหกหลอกลวง) ก็ดี
อันเป็นเหตุให้พ่อกับแม่ เจ็บซ้ำน้ำใจ เสียใจ ทุกข์ใจ ร้องไห้เสียน้ำตา ด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา ทั้งที่รู้ตัวก็ดี ไม่รู้ตัวก็ดี ทั้งที่เจตนาก็ดี มิได้เจตนาก็ดี ทั้งในอดีตก็ดี ในปัจจุบันก็ดี
บัดนี้ เวลานี้ ลูกสำนึกผิดแล้ว จึงกราบขอขมากรรม ในสิ่งที่ได้ทำล่วงเกินทั้งหมดทั้งสิ้นนั้น ขอให้บิดามารดา ได้โปรดยกโทษ อโหสิกรรม ซึ่งโทษล่วงเกินทั้งหมดทั้งสิ้น แก่ลูกคนนี้ด้วยเถิด”
เสร็จแล้ว ยกธูปเทียนแพ มาลัย พร้อมซองเงินมอบให้พ่อมกับแม่ ก้มกราบเท้าท่าน ๓ ครั้ง จากนั้นพ่อกับแม่กล่าวอโหสิกรรมให้กับลูก และอำนวยอวยพรให้ลูกมีแต่ความสุขความเจริญ เป็นอันเสร็จพิธี
บทสวดขอขมาพระภูมิเจ้าที่ เทวดาอารักษ์
อิติสุคะโต อะระหัง พุทโธ
นะโมพุทธายะ ปะฐะวีคงคา
พระภูมะเทวา ขะมามิหัง
กราบลาพระ
อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ
สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
ธัมมัง นะมัสสามิ
สุปะฏิปัโนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สังฆัง นะมามิ